จี้รัฐหยุด กม. แยกคนออกจากป่า เตรียมพบนายกฯ ในเวที ครม. สัญจร ที่เชียงใหม่

วันนี้ (๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗) ที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จังหวัดเชียงใหม่ “สมัชชาชุมชนคนอยู่กับป่า” อ่านแถลงการณ์เรียกร้อง ครม. สัญจรของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา ๖๔ แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒  และพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตามมาตรา ๑๒๑ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒  ชี้ละเมิดสิทธิชุมชนและจะสร้างความแตกแยกในการจัดการป่า พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายอุทยาน และตั้งคณะทำงานร่วม

โดยสมัชชาชุมชนคนอยู่กับป่า (สชป) ให้เหตุผลในแลถงการณ์ว่า พ.ร.ฎ. ทั้ง ๒ ฉบับนี้ จะส่งผลกระทบกับประชาชนที่ทำกินและอยู่อาศัยในพื้นที่อนุรักษ์ จำนวน ๔๖๒,๔๔๔ ครัวเรือน หรือ ๑,๘๔๙,๗๙๒ คน และจะส่งผลให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระหว่างรัฐกับชุมชนคนอยู่ในป่ามากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาร่าง พ.ร.ฎ. นี้ถูกคัดค้านจากภาคประชาชนมาโดยตลอด แต่ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุพืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ผลักดันและเร่งรัดให้ออกมาเป็นกฎหมาย ดังนั้นการมี พ.ร.ฎ.นี้จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชนท้องถิ่น และทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

จากแถลงการณ์ยังระบุว่าด้วย ในการเดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ ๒๙ พฤศจิกายนนี้ ทาง สชป. เตรียมเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นข้อเสนอ ๓ ข้อ ได้แก่

๑. ขอให้ยุติการนำพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา ๖๔ แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒  และพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตามมาตรา ๑๒๑ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปประกาศใช้กับพื้นที่ป่าอนุรักษ์อื่นๆ จนกว่าจะมีการปรับแก้กฎหมาย ในส่วนที่มีการประกาศใช้ไปแล้ว ๖ แห่งนั้น ให้มีกระบวนการติดตามผลการดำเนินงานอย่างมีส่วนร่วม เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับภาครัฐ

๒. ให้รัฐบาลและคณะรัฐมนตรีเร่งปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน  และใช้กลไกรัฐสภาที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นผู้แทนประชาชนมีหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติตามระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว

๓. ให้รัฐบาลจัดตั้งกลไกในรูปแบบที่เป็นคณะกรรมการหรือคณะทำงานจัดเวทีเปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่สามารถนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ พ.ร.บ.ทั้ง ๒ ฉบับได้แล้วเสร็จภายใน ๓ เดือน

สำหรับความเคลื่อนไหวในรอบนี้ สมัชชาชุมชนคนอยู่กับป่าคาดว่าจะมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากกฎหมายดังกล่าว เดินทางมารวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เย็นวันที่ 28 พฤศจิกายน เพื่อที่จะเคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในวันที่ 29 และในช่วงท้ายของการแถลงข่าวในวันนี้ ทางแกนนำย้ำว่าการชุมชนเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น จะเป็นการรวมพลังอย่างสันติวิธี เพื่อแสดงความกังวลต่อผลการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พ.ร.ฎ. ป่าอนุรักษ์ กฎหมายเปลี่ยนคนอยู่กับป่า ให้กลายเป็นผู้บุกรุก